การเตรียมความพร้อมผู้เข้ารับการฝึกอบรม
เป็นสิ่งจำเป็นอีกประการหนึ่งที่ผู้ดำเนินการฝึกอบรมจะละเลยมิได้ เพราะการเตรียมความพร้อมเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีเท่าเทียมกัน
ทำให้ผู้เข้าอบรมมีความคุ้นเคยรู้จักกัน มีความสนิทสนมกัน มีความเป็นกันเอง
มีส่วนร่วมทั้งผู้เข้ารับการฝึกอบรมด้วยกันเองและวิทยากร นอกจากนั้นยังทำให้ผู้เข้าอบรมได้ทราบความคาดหวังและกฎกติกาการอยู่ร่วมกันในการเข้าอบรม
และที่สำคัญคือผู้เข้ารบรมได้รับความสนุกสนานกับการฝึกอบรมไปด้วย
ขั้นตอนและวิธีการ (ผู้เข้าอบรมพร้อมกันแล้ว)
ขั้นตอนที่
1 วิทยากรทักทายผู้เข้าอบรมด้วยคำว่า “สวัสดีครับหรือสวัสดีค่ะ” 2-3 ครั้ง ดังขึ้นเลื่อยๆ แล้วกล่าวต้อนรับ
และซักถามถึงสถานการณ์ในการเดินมาเข้ารอบรมเช่น “ตื่นกี่โมง
เดินทางออกจากบ้านกี่โมง ด้วยพาหนะอะไร สนุกกับการเดินทางหรือไม่
ทานอาหารเช้าหรือยัง ท่านพร้อมที่จะรับการอบรมหรือยัง”
ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว วิทยากรสั่งผู้เข้าอบรม “ปรบมือ 1 ครั้ง 2
ครั้ง 3 ครั้ง ปรบมือ 3 ครั้ง” วิทยากรสาธิตการปรบมือแล้วใช้มือขวาแตะที่หัวใจแล้วชกขึ้นไปด้านหน้าของตัวเองเฉียงประมาณ
45 องศา พร้อมกับกล่าวคำว่า “เราทำได้ หรือ สู้” คำได้คำหนึ่งด้วยเสียงที่ดังและชัดเจน คำสั่งที่วิทยากรควรใช้ คือ “ผู้นำชุมชนปรบมือ หรือ ปรบมือผู้นำ” สำหรับเยาวชนให้ใช้คำว่า
“ปรบมือเยาวชน หรือ เยาวชนปรบมือ” (ถ้าเป็นผู้นำชุมชนจะใช้คำว่า
เราทำได้ ถ้าเป็นเยาวชนจะใช้คำว่า สู้ (ปรบมือ 3 ครั้ง มีความหมายว่า ขยัน อดทน สามัคคี)
วิทยากรควรทดสอบ 2-3 ครั้ง หรือแบ่งผู้เข้าอบรมเป็นฝ่ายเท่าๆกัน
ขั้นตอนที่
2 รู้จักกัน วิทยากรแนะนำตนเองที่ละคน เช่น ชื่อ/นาม/สกุล//ชื่อเล่น/ตำแหน่ง/สถานที่ทำงาน/สถานภาพ
เป็นต้น ต่อจากนั้น ให้ผู้เข้ารับการอบรมแนะนำตนเองที่ละคน
โดยแนะนำชื่อ/นามสกุล/ชื่อเล่น/ตำแหน่ง/ที่อยู่/สถานภาพ เป็นต้น
เมื่อแนะนำเสร็จแต่ละคนให้ปรบมือให้เกียรติพร้อมกัน (ถ้าหากมีผู้เข้าอบรมเป็นจำนวนมากให้แบ่งเป็นกลุ่มๆละไม่เกิน
20 คน)
เสร็จแล้ววิทยากรพาร้องเพลง “โอเพื่อนรัก” พร้อมทำท่าประกอบเพลง (เนื้อเพลงโอเพื่อนรัก
“โอเพื่อนรัก เรามาพบกัน สวัสดี สวัสดี สะบายหรือ สะบายดี เรายินดีที่ได้พบกัน” ให้ทุกคนร้องตามและทำท่าประกอบพร้อมกัน
ขั้นตอนที่
3 ค้นหาความคาดหวัง/และสร้างกฏกติกาการอยู่ร่วมกัน วิทยากรแจกบัตรคำให้ผู้เข้าอบรมคนละ
2 แผ่น ซึ่งเป็นกระดาษสีที่แตกต่างกัน ใบที่ 1 ให้เขียนความคาดหวังโดยให้คำถามว่า “ท่านมาอบรมครั้งนี้ท่านอยากได้อะไร
หรือ ท่านอย่างได้ความรู้เรื่องอะไรบ้าง” ใบที่ 2 ให้เขียนกฎกติกาการอยู่ร่วมกัน
โดยใช้คำถามว่า “เมื่อเรามาอยู่รวมกันเราควรมีกฎกติกาหรือข้อห้ามอะไรบ้าง” วิทยากรเก็บรวบรวมแล้วอ่านความคาดหวังและกฎกติกาให้ผู้เข้าอบรมทราบหรือให้อ่านข้อความทีละคน เสร็จแล้วให้นำบัตรคำไปปิดไว้ที่บอร์ด โดยแยกเป็นสองหมวด
คือ หมวดความคาดหวังและหมวดกฎกติกาการอยู่ร่วมกัน วิทยากรพาร้องเพลง “พวกเรามาอยู่ร่วมกัน” พร้อมแสดงท่าทางประกอบ(เนื้อเพลง) “พวกเรามาอยู่ร่วมกัน ไม่มีรั้วมาขวางกั้นกลาง ความรักของเรามิจาง เปิดทางให้สร้างรักกันอยู่กันคนละบ้าน แต่พวกเรานั้นมาร่วมอบรมด้วยกัน อย่าให้เขาเย้ยหยัน ว่าพวกเรานั้นไม่สามัคคี อยู่ด้วยกันดีๆ
เพราะพวกเรานี้มาอบรมด้วยกัน” เสร็จปรบมือให้เกียรติตัวเอง หลังจากนั้นเข้าสู่ภาควิชาการได้
สรุป จะเห็นได้ว่าการเตรียมความพร้อมผู้เข้าอบรมด้วยกิจกรรมละลายพฤติกรรมนั้น ผู้เข้าอบรมได้รับความสนิทสนมเป็นกันเองรู้จักกันมากขึ้น ทำให้การดำเนินการฝึกอบรมในวิชาต่อๆไปกระทำได้ง่ายขึ้น ผู้เข้ารับการอบรมจะมีความตั้งใจฟังวิทยากรบรรยายและอยากจะมีส่วนร่วมกับผู้บรรยายเหมือนกับกฎกติกาที่ได้ร่วมกันสร้างเอาไว้
แต่งถึงอย่างไรก็ตามเทคนิคการเตรียมความพร้อมผู้เข้าอบรมมีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่ลักษณะการฝึกอบรม
หรือ แล้วแต่วัยวุฒิ คุณวุฒิ ของผู้เข้าอบรม หรือแล้วแต่เทคนิคหรือความชำนาญของวิทยากรแต่ละคน
แต่งถึงอย่างไรก็ตามการเตรียมความพร้อมผู้เข้าอบรมก็ยังมีความจำเป็นอยู่สำหรับหลักสูตรการฝึกอบรมของศูนย์ฝึกอบรมทั่วๆไป
สำหรับกิจกรรมละลายพฤติกรรมนี้ควรมีวิทยากรดำเนินการ 2-3 คน
เจ้าของความรู้ นายสุวัฒน์ชัย ทิพย์จันทร์
นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ
ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี สถาบันการพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน
***ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์เอกสารได้ที่ http://www.cddudonthani.com/site/2016-06-20-03-25-32/km-corner/download/2-km/15-km
***ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์เอกสารได้ที่ http://www.cddudonthani.com/site/2016-06-20-03-25-32/km-corner/download/2-km/15-km
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น