1.การขออนุญาตไปราชการ
ขั้นตอน
|
เอกสารที่ใช้
|
รายละเอียด
|
1.ประสานกับแผนกยานพาหนะ ฝ่ายอำนวยการ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการเดินทางไปราชการและตรวจสอบตารางการใช้รถ
|
1.ใบขออนุญาตใช้รถราชการ
2.สำเนาหนังสือหรือบันทึกข้อความจากหน่วยงานที่เชิญไปราชการ
|
ใบขออนุญาตใช้รถราชการ
1.ชี้แจงรายละเอียดการไปปฏิบัติราชการอ้างถึงเลขที่หนังสือที่ระบุการมอบหมายให้ไปราชการ
1.1 สถานที่ ระยะเวลา
1.2 ผู้ร่วมการเดินทาง
1.3 เวลาออกเดินทาง และระยะทาง
1.4 ผู้ที่เดินทางไปราชการเป็นผู้ลงนามขออนุญาตในแบบฟอร์มและหากมีผู้ไปราชการหลายคน ให้มีตัวแทนเป็นผู้ลงนาม
2.นำเสนอหัวหน้าฝ่ายอำนวยการลงนามอนุญาต
3.หัวหน้ายานพาหนะระบุหมายเลขรถราชการพร้อมพนักงานขับรถยนต์และลงนามอนุญาต
4.นำเสนอขออนุมัติจากผู้อำนวยการศูนย์ฯ
|
2.ดำเนินการขออนุญาตไปราชการ
|
1.บันทึกข้อความขออนุญาตไปราชการ
2.หนังสือบันทึกข้อความจากหน่วยงานที่เชิญไปราชการ
3.ใบขออนุญาตใช้รถราชการ
|
บันทึกข้อความขออนุญาตไปราชการ
1.ชี้แจงรายละเอียดการไปปฏิบัติราชการหัวขอเรื่องที่ต้องไปราชการโดยอ้างถึงหนังสือที่ระบุการมอบหมายให้ไปราชการ
1.1 สถานที่ ระยะเวลา
1.2 ผู้ร่วมการเดินทาง
1.3 เวลาออกเดินทางและระยะทาง
1.4 ขอใช้รถราชการในการเดินทางหรือไม่หากขอต้องระบุหมายเลขทะเบียนรถราชการ
1.5 ผู้ที่เดินทางไปราชการเป็นผู้ลงนามขออนุญาตในแบบฟอร์มและหากมีผู้ไปราชการหลายคน ให้มีตัวแทนเป็นผู้ลงนาม
2.นำเสนอผู้อำนวยการศูนย์ฯลงนาม
|
3.ยื่นเรื่องยืมเงินไปราชการ
|
1.ใบประมาณการค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
2.สัญญาการยืมเงิน
3.สำเนาบันทึกขออนุญาตไปราชการ
4.สำเนาหนังสือบันทึกข้อความจากหน่วยงานที่เชิญไปราชการ
|
ใบประมาณการค่าใช้จ่าย
1.ระบุการคำนวณค่าใช้จ่ายตามจำนวนวันและจำนวนผู้เดินทางตามประเภทของตำแหน่งผู้ไปราชการ เช่นประเภทวิชาการ ประเภทบริหาร เป็นต้น ประกอบด้วย
1.1 ค่าเบี้ยเลี้ยง มี 2 อัตรา ได้แก่ อัตราวันละ 270 บาท สำรับระดับ C9 ขึ้นไป และอัตราวันละ 240 บาท สำหรับระดับ C8 ลงมา
1.2 ค่าที่พัก (ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2555
1.2.1 การฝึกอบรมข้าราชการประเภท ก ค่าเช่าห้องพักคนเดียว ไม่เกิน 2,000 บาท ค่าเข่าห้องพักคู่ ไม่เกิน 1,100 บาท
1.2.2 การฝึกอบรมข้าราชการประเภท ข และการฝึกอบรมบุคคลภายนอก ค่าเช่าห้องพักคนเดียว ไม่เกิน 1,200 บาท ค่าเช่าห้องพักคู่ ไม่เกิน 750 บาท
2.นำเสนอเจ้าหน้าที่การเงินเพื่อประกอบการยื่นเรื่องยืมเงินไปราชการ
ค่าพาหนะ หมายถึง
-รถโดยสารประจำทาง เช่น รถทัวร์
-รถจ้างเหมา เช่น รถแท็กซี่ อัตราค่ารถขาไปและกลับไม่เกินกิโลเมตรละ 100 บาท กรณีจ้างเหมาพาหนะต้องทำเรื่องขออนุญาตจ้างเหมาโดยใช้เอกสารบันทึกขออนุญาตจัดจ้างพร้อมแนบใบขออนุญาตใช้รถราชการที่หัวหน้าแผนกยานพาหนะระบุเหตุผลที่รถไม่ว่าง
ค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าทางด่วน
สัญญายืมเงิน
1.ระบุจำนวนเงินที่ประสงค์ขอยืมในการไปราชการยอดเงินตามที่ระบุในใบประมาณการ
2.ผู้ยืมเงินต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่อร่วมไปราชการด้วย
3.แผนกการเงินนำเสนอผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติ
|
2.การส่งใช้เงินยืมหลังกลับจากไปราชการ
ขั้นตอน
|
เอกสารที่ใช้
|
รายระเอียด
|
1.ยื่นเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการไปราชการที่แผนกการเงิน
|
1.ใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
2.หลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
3.ใบเสร็จรับเงินค่าที่พัก ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าพาหนะ
4.บันทึกขออนุญาตไปราชการ
5.สำเนาหนังสือบันทึกข้อความจากหน่วยงานที่เชิญไปราชการ
|
ใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
1.ระบุรายละเอียดการยืมเงิน บริเวณมุมด้านบนฝั่งซ้ายของเอกสาร
-เลขที่สัญญายืมเงินและวัน ที่ยืมเงิน
-ชื่อผู้ยืมเงินและจำนวนเงิน
2.ชี้แจงรายละเอียดการไปราชการ ได้แก่
-เลขที่บันทึกข้อความที่อนุมัติให้ไปราชการ
-ระบุสถานที่ และระยะเวลา
-รายชื่อผู้ร่วมเดินทาง
-วันที่และเวลาในการออกเดินทาง
-วันที่และเวลาที่กลับจากราชการ
-จำนวนรวมของวันและเวลาที่ไปราชการโดยคิดตามจริง ซึ่งจำนวนชั่วโมงจะต้อง เกิน 12 ชั่วโมงจึงจะเบิกเบี้ยเลี้ยงได้ เช่น ไปราชการ วันที่ 1-3 ก.พ.57 ออกเดินทาง 08.00 น.และกลับเวลา 20.30 น.
รวมเวลาไปราชการ จำนวน 2 วัน
ชี้แจงค่าใช้จ่ายในการไปราชการ โดยแยกตามรายการ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะ และค่าใช้จ่ายอื่น
-ผู้ยืมเงินลงนามเพื่อเป็นหลักฐานการรับเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
หลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
ชี้แจงรายละเอียดการใช้จ่ายเงิน ดังนี้
1.ส่วนบนของแบบฟอร์ม ระบุชื่อผู้ไปราชการ และลงวันที่ไปราชการหากมีผู้ร่วมไปหลายคนให้ใช้คำว่า “ชื่อ(ผู้ยืมเงิน)และคณะ”
2.กรอกรายละเอียดในคอลัมน์ต่าง ๆ ดังนี้
-ชื่อ ระบุชื่อผู้ไปราชการ
-ตำแหน่ง ตำแหน่งผู้ไปราชการ
-ค่าเบี้ยเลี้ยง ใส่จำนวนเงินร่วมที่ได้รับ
-ค่าที่พัก ใส่จำนวนเงินต่อคน เช่น ค่าที่พัก 1,500 บาท พัก 2 คน 1 คืน ต้องใส่ 750 บาท
-ค่าพาหนะ ค่ารถโดยสารประจำทางและค่าจ้างเหมารถบริการให้ใส่ตามรายชื่อผู้ไปราชการ แต่หากไปราชการหลายคนในส่วนค่าจ้างเหมารถบริการ เช่น รถแท็กซี่ให้ใส่ในชื่อผู้ยืมเงิน
-ค่าใช้จ่ายอื่น คือ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงใส่ในชื่อผู้ยืมเงิน
-รวม ยอดเงินรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือ เบี้ยเลี้ยงบวกค่าที่พักบวกค่าพาหนะบวกค่าใช้จ่ายอื่น
-ลายมือชื่อผู้รับเงิน ผู้ไปราชการลงนามเพื่อเป็นหลักฐานการรับเงิน
-วันเดือนปีที่รับเงิน คือวันที่ผู้ยืมเงินรับเงินจากแผนกการเงิน
-หมายเหตุ ให้แสดงวีธีการคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าที่พัก เช่น
ค่าเบี้ยเลี้ยง 240 บาท / คน
5 คน x 240 บาท x 2 วัน = 2,400 บาท
ค่าที่พัก 750 บาท / คน
5 คน x 750 บาท x 1 วัน = 3,750 บาท
3.ด้านล่างของตารางแสดงค่าใช้จ่ายให้คำนวณยอดเงินรวมในคอลัมน์ รวมเงิน ของค่าใช้จ่ายแต่ละประเภท พร้อมระบุเลขที่สัญญารับเงินและวันที่รับเงิน
4.ผู้ยืมเงินลงชื่อผู้จ่ายเงินในส่วนท้ายสุดของแบบฟอร์มและลงวันที่เป็นวันเดี่ยวกันกับวันที่ยืมเงิน
**ผู้ยืมเงินต้องลงนามกำกับในใบเสร็จรับเงินทุกฉบับ
|
เจ้าของความรู้ นางอัมรา หล้าสรวย
ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการบัญชีและการเงินชำนาญงาน
***ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์เอกสารได้ที่ http://www.cddudonthani.com/site/2016-06-20-03-25-32/km-corner/download/2-km/17-km
***ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์เอกสารได้ที่ http://www.cddudonthani.com/site/2016-06-20-03-25-32/km-corner/download/2-km/17-km
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น