Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การบริหารร่างกายด้วย “พลังลมปราณ” กับกิจกรรมเสริมคุณค่าการฝึกอบรม



การพัฒนาบุคลากร หรือ คน  เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านทักษะ การปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำด้วยวิธีการฝึกอบรม ร่วมสัมมนาทั้งในและนอกสถานที่ เป็นต้น เพราะการฝึกอบรมเป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่แตกต่างกัน ให้เรียนรู้การทำงานร่วมกัน มีทิศทางเดียวกัน ดังนั้นกิจกรรมเสริมคุณค่าระหว่างการฝึกอบรม จึงมีส่วนสำคัญต่อการละลายพฤติกรรมของมนุษย์ให้เกิดการพัฒนาตนเอง (Self-development) และปรับตนเองได้ (Self-modification)
          การจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรม และดำเนินการฝึกอบรม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดกิจกรรมเสริมคุณค่าให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ไม่ว่าจะเป็นภาคเช้าหรือว่าภาคกลางคืน เช่น กิจกรรมทำบุญตักบาตร กิจกรรมการออกกำลังกาย ซึ่งจากประสบการณ์การเป็นวิทยากรการฝึกอบรมอย่างมากมายของข้าพเจ้าพบว่า หลายๆ หลักสูตร ไม่ได้กำหนดกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพราะว่า ไม่มีวิทยากรที่มีความรู้ ทักษะ ในการทำกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว การทำ พลังลมปราณ เป็นกิจกรรมเสริมคุณค่าในการออกกำลังกายในภาคเช้า เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมได้ร่วมกิจกรรม ปรับพฤติกรรม ได้เป็นอย่างดี โดยศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานีได้ศึกษาจากวีดีทัศน์ การทำพลังลมปราณ ของนายศุภกิจ นิมมานนรเทพ
          การดำเนินกิจกรรมเสริมคุณค่าด้วยพลังลมปราณ วิทยากรต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งสถานที่ เครื่องเสียง และนัดหมายให้ผู้เข้าอบรมให้ชัดเจน เช่น เวลา สถานที่ เครื่องแต่งกาย และมอบหมายให้ผู้ทำหน้าที่กรรมการอำนวยการประจำวัน (กว.) ปลุกผู้เข้าการอบรม และเริ่มในเวลา ๐๕.๓๐ น.
          การบริหารร่างกายด้วยพลังลมปราณ เป็นการฝึกหายใจที่ถูกวิธี และการบริหารร่างกาย มีทั้งหมด ๖ ท่า รวมเป็น ๑ ยก ใช้เวลา ๑๐ นาที ทำให้มีสมาธิ สุขภาพร่างกายแข็งแรง รักษาโรค โดยวิทยากรเป็นผู้นำการบริหารร่างกายมีวิธีการ ขั้นตอน ดังนี้
          การเตรียมตัว
          ๑. วิทยากรให้ผู้เข้าอบรมตั้งแถว โดยให้แต่ละคนมีระยะห่าง ๑ ช่วงแขน
          ๒. ให้ผู้เข้าอบรม ได้อบอุ่นร่างกาย ประมาณ ๕-๑๐ นาที
          ๓. ยืนตรง แยกเท้าเล็กน้อย มือกำแนบลำตัว ยืดอก ยกไหล่ขึ้น พร้อมหายใจลึกๆๆ จนสุด แล้วกลั้นลมหายใจไว้ (นับในใจ ๑-๕) เปล่งเสียงออกทางปาก ด้วยคำว่า เฮ้ย ให้สุดสุดเสียง ให้มีความรู้สึกเหมือนกับการขับของเสียของทางปอด โดยให้ทำแบบเดิม จำนวน ๓ ครั้ง ซึ่งเรียกว่าการลมปราณ
          ๔. ทุกครั้งของการเคลื่อนไหวในท่ากายบริหาร ต้องมีสมาธิ กำหนดรู้ถึงการเคลื่อนไหว
        ท่ากายบริหารลมปราณ
         ๑. ยืนตรงแยกเท้าเล็กน้อย ค่อยๆ ยกแขนที่แนบลำตัวออกช้าๆ เกร็งกล้ามเนื้อออกแรง ให้รู้สึกว่าเสมือนหนึ่งว่ายกถังน้ำขึ้น นับเลขในใจ ๑-๓๐  จนกำปั้นขึ้นมาเสมอ แล้วทำลมปราณ ๓ ครั้ง (ในข้อ ๓ การเตรียมตัว)
           ๒. เกร็งกล้ามเนื้อแขน ค่อยๆหงายฝ่ามือขึ้นมาช้าๆ ให้รู้สึกเสมือนว่ากำลังออกแรงผลักประตูหนักๆอยู่ นับ ๑-๓๐ หมุนข้อมือจนกระทั้งฝ่ามือหงายขึ้นเต็มที่ มือเหยียดตรงขนานกับพื้น แล้วทำลมปราณ ๓ ครั้ง
            ๓. เกร็งแขนให้ตึงตลอดเวลา แล้วค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นช้าๆ นับ ๑-๓๐ จนประทั้งแขนเหยียดตรง โดยให้แขนแนบที่ลำหู ฝ่ามือชูขนานกันเหยียดตรงเหนือศีรษะ หายใจลึกๆ ทำลมปราณ ๓ ครั้ง
               ๔. เกร็งกล้ามเนื้อค่อยๆ ย่อลง พร้อมแขนทั้งคู่ลงมาลงมาช้าๆ กำหนดใจให้รู้สึกเสมือนหนึ่งว่า เรากำลังยกกระถางธูปหนักๆ ค่อยๆชะลอลงมา นับ ๑-๓๐ จนกระทั้งฝ่ามือทั้งสองอยู่ในระดับหน้าอก และนั่งยองๆลงไป โดยเท้าราบ ข้อศอกตั้งขนานเข่า หายใจเข้าเต็มพุง เกร็งกล้ามเนื้อเต็มที่ เสมือนกำลังเบ่งอุจจาระ จำนวน ๓ ครั้ง
                    ๕. เกร็งกล้ามเนื้อค่อยๆ ยกลำตัวขึ้นช้าๆ มือทั้งสองข้างขนานกันที่หน้าอก นับ ๑-๓๐
              ๖. อยู่ในท่ายืน กางขาเล็กน้อยมือ มือทั้งสองข้างประกบกันอยู่ในระดับหน้าอก หายใจเข้าออกอย่างเร็วทางจมูก เหมือนกระทิงดุ ฉุนฉียว มือทั้งสองดันผลักกัน เสมือนกำลังกดปริง แต่สู้แรงกดสปริงไม่ได้ ค่อยๆ กางมือออก ทำจำนวน ๓ ครั้ง
               ๗. เกร็งกล้ามเนื้อ กางแขนออกทั้งสองสองขนานกับพื้น ค่อยๆลดแขนลง นับ ๑-๓๐ จนแขนติดลำตัว ครบท่าบริหารร่างกายด้วยพลังลมปราณ
          แต่ถึงอย่างไร ปัจจัยที่จะทำให้สำเร็จ ผู้ที่จะเป็นวิทยากรนำกิจกรรมต้องฝึกฝนให้เกิดทักษะ จนสามารถถ่ายทอดได้ โดยยังต้องอาศัยหลักฐาน ๔ (น้ำเสียง สายตา ภาษาและท่าทาง) เพื่อให้ผู้รับการฝึกอบรมได้เชื่อมั่นในตัววิทยากร และ เครื่องเสียง ต้องเสียงดัง ชัด สามารถสื่อสารกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ดี
         ข้อพึงระวัง
          ๑. ผู้เข้าอบรมต้องมีสุขภาพแข็งแรง สามารถทำกิจกรรมเสริมได้ ผู้เป็นวิทยากรต้องสอบถามก่อน หากมีผู้เข้าอบรม ไม่สามารถทำได้ ต้องไม่บังคบให้ทำ
          ๒. ยกหนึ่ง มี ๖ ท่า ใช้เวลา ๑๐ นาที วิทยากรต้องกำหนดระยะให้พอเหมาะกับกิจกรรมอื่นๆ ด้วย
          ๓. สถานที่ ต้องมีความเหมาะสม โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยืนได้ในระยะห่าง ๑ ช่วงแขน
      ๔. วิทยากรผู้นำกิจกรรม ควรยืนอยู่บนเวทีที่สูง ประมาณ ๑-๒ เมตร เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มองเห็น
          ดังนั้นจะเห็นว่า กิจกรรมเสริมคุณค่าการบริหารร่างกายด้วยพลังลมปราณ เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่จะเป็นวิทยากรในการนำกิจกรรมภาคเช้าได้ ซึ่งเหมาะกับผู้เข้าอบรมที่เป็นผู้ใหญ่ สามารถทำได้ง่าย และผู้เข้าอบรมสามารถนำไปถ่ายทอด หากทำเป็นประจำจะทำให้สุขภาพแข็งแรง รักษาโรคได้ จากประสบการณ์ของข้าพเจ้าที่ได้ลมปราณ วันละ ๕ รอบ อาการที่ปวดหลังเรื้อรัง ก็มีอาการดีขึ้น เสมหะที่อัดแน่นทำให้หายใจไม่สะดวก เมือทำอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเสมหะ หายใจได้เต็มปอด
..............................................................................................


เจ้าของความรู้ นายเชิดทวี สูงสุมาลย์
ตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ (หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล)
***ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์เอกสารได้ที่ http://www.cddudonthani.com/site/2016-06-20-03-25-32/km-corner/download/2-km/43-km

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น